เปรียบเทียบสถิติของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยามเมื่อมีและไม่มี

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ชาวโปรตุกีสลงสนาม หลังจากเจ้าตัวแทบจะหมดอนาคตในยุคของ เอริก เทย ฮาก ไปเรียบร้อยเวลานี้อนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กำลังมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น หลังเพิ่งถูกสั่งลงโทษจากสโมสรไม่ให้ลงเล่นในเกมกับ เชลซี พร้อมกับถูกส่งไปซ้อมกับทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี และเชื่อกันว่าโดนปรับค่าเหนื่อยเป็นจำนวนหนึ่งด้วย หลังจากที่เขาปฏิเสธที่จะลงเป็นตัวสำรองในเกมกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

จากประเด็นดังกล่าวนั้นแน่นอนว่ามันทำให้เจ้าตัวมีข่าวย้ายทีมหนาหูขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงตลาดรอบสองเดือนมกราคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ เทน ฮาก ไปเรียบร้อย และเตรียมเปิดรับข้อเสนอจากทีมอื่นที่จะยื่นเข้ามาด้วยล่าสุด เดอะ ซัน สื่อจากอังกฤษ ได้เปรียบเทียบสถิติในยามที่ แมนฯ ยูไนเต็ด มีและไม่มี โรนัลโด้ ลงเล่นให้เห็นว่าทีมควรเก็บเขาไว้ใช้งานต่อไปหรือไม่สถิติระบุว่าในจำนวน 12 เกมที่ โรนัลโด้ ถูกส่งลงเล่นในซีซั่นนี้ทีมคว้าชัยไปได้ถึง 8 นัด ซึ่งรวมไปถึงเกมแดงเดือดที่ “ปีศาจแดง” เอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 แม้ว่าเขาจะถูกส่งลงเล่นแค่ 4 นาทีสุดท้ายก็ตาม โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 66.70 %ในขณะเดียวกันตลอด 3 เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี โรนัลโด้ อยู่ในสนามนั้นพวกเขาคว้าชัยได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์การชนะอยู่ที่ 33.30 %

ufabet

ส่วนในเรื่องการทำประตูต่อเกมเมื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่มี โรนัลโด้ อยู่ในสนามกลับมีตัวเลขที่ดีกว่า

ด้วยค่าเฉลี่ยยิงได้ 2 ประตูต่อเกม ซึ่งมากกว่าเมื่อมีซีอาร์เซเว่นลงเล่นด้วยค่าเฉลี่ย 1.3 ประตูต่อเกมเท่านั้น ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าสตาร์ชาวโปรตุกีสไม่ได้เป็นเดอะแบกในการล่าตาข่ายอีกต่อไปแล้วเช่นเดียวกับในเรื่องโอกาสการส่องประตูต่อเกมเมื่อทีมไม่มี โรนัลโด้ พวกเขามีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 17.7 ครั้งต่อเกม ซึ่งมากกว่าเมื่อมี โรนัลโด้ ด้วยค่าเฉลี่ย 15.6 ครั้งต่อเกม

โดย ทัตสึมะ โยชิดะอดีตกุนซือทีมชาติสิงคโปร์วัย 48 ปี ที่มีความชัดเจนแล้วจะไม่เดินหน้ากับเวนท์ฟอร์เรทโคฟุต่อแม้ว่าจะเพิ่งพาทีมคว้าแชมป์เอ็มพาเรอร์ คัพ2022แต่เนื่องจากผลงานในลีกไม่ดีพาทีมจบอันดับ18ไม่เป็นไปตามเป้าจึงดิ้นรนหางานทำใหม่ โดยยื่นโปรไฟล์ให้กับเวลกัลตะเซนไดพิจารณาคุมทัพในฤดูกาล 2023แต่ข่าวการแยกทางของบีจีปทุมยุไนเต็ดกับมากาโตะเทกุระโมริ กุนซือระดับตำนานของสโมสรเวลกัลตะเซนไดอาจจะทำให้กุนซือรายดังกล่าวมีโอกาสหวนกลับไปคุมทีมเซนไดอีกครั้งหลังจากนี้เพราะก่อนเดินทางมาเมืองไทยกุนซือดีกรีแชมป์เยาวชน 23 ปี 2016 ได้วางแผนงานไว้กับทีมเยอะพอสมควรสำหรับ ทัตสึมะโยชิดะกุนซือวัย48ปีมีดีกรียูฟ่าโปรไลเซนส์ผ่านารทำงานมาแล้วหลายสโมสรทั้งคาชิว่าเรย์โซล, อบิเรกซ์นิงาตะวนท์ฟอร์เรทโคฟุวมไปถึงการคุมทีมชาติสิงคโปร์ ช่วงปี 2019-21Nikkan Sportsสื่อของญี่ปุ่นออกมารายงานว่าทัตสึมะโยชิดะ

อดีตกุนซือทีมชาติสิงคโปร์ ที่เพิ่งพาเวนท์ฟอร์เรท โคฟุ คว้าแชมป์เอ็มพาเรอร์ คัพ 2022 ด้วยการเอาชนะ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า พร้อมกับคว้าตั๋วไปแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมป์เปี้ยนส์ลีก 2023-24 ตกเป็นข่าวว่าส่งโปรไฟล์เสนอตัวคุมทีม เวลกัลตะ เซนได สโมสรในศึกเจลีก 2 ของญี่ปุ่น ที่จบฤดูกาลด้วยอันดับ 7 พลาดโอกาสไปเล่นเพลย์ออฟเจลีก 1 แบบหวุดหวิด

อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิ๊ก katwra-becafe.com สนับสนุนข่าวดีดี โดย ufabet